ลุ้นกันอีกเฮือก!กับ “ทัพช้างศึกไทย” ในการแข่งขันในศึกเอเชียน คัพ 2019 รอบแบ่งกลุ่ม สายเอ นัดสุดท้ายรอบแรกในค่ำคืนนี้ (14 ม.ค.) เวลา 23.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ที่จะต้องเจอกับเจ้าภาพสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) กระดูกชิ้นโต ที่สามารถออกได้ทั้ง 3 หน้า คือ “ชนะ แพ้ เสมอ” และถึวงแม้ว่าจะแพ้ทีมชาติไทย ก็มีโอกาสสูงที่จะเข้ารอบต่อไป โดยปัจจุบันรั้งอันดับที่สามของกลุ่มเอ ซึ่งตอนนี้อยู่อันดับ 1 ของอันดับสามที่ดีที่สุดของทุกกลุ่ม หรือเพียงขอแค่ผลเสมอก็การันตีเข้ารอบโดยไม่ต้องลุ้นผลคู่อื่น
แสงสว่างที่ปลายอุโมงเกิดขึ้นหลังจากที่ทีมช้างศึกไทยสามารถเบียดเอาชนะทีมชาติ บาห์เรนไป 1-0 จากการทำประตูของ “เมสซีเจ” ชนาทิปสรงกระสินธ์ ที่หวดด้วยซ้ายเต็มขอแบบไม่ต้องจับ “แซกหน้านายด่านบาห์เรน”ทำให้ขวัญ และกำลังใจของนักฟุตบอลทีมชาติไทย และแฟนบอลกลับมาคึกคักกันอีกครั้ง แต่หากทีมไทยพลาดท่าแพ้ยูเออี ช้างศึกไทยก็ต้องไปลุ้นให้ อินเดีย ชนะ บาห์เรน ให้ได้สถานเดียว ถึงมีสิทธิ์ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายต่อไป
ทางด้านความพร้อมของทีมชาติไทยล่าสุด “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย รักษาการหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย กล่าวว่า ยูเออีเป็นทีมที่แข็งแกร่ง เรารู้มาตั้งแต่ตอนที่เจอกันในรอบคัดเลือก ฟุตบอลโลก จนมาถึงเอเชียนคัพ สิ่งที่ยูเออีมีคือเรื่องของเทคนิค และมีความแข็งแรง เป็นทีมที่น่ากลัว ขณะที่ทีมชาติไทยผมมองว่าสิ่งที่เรามี คือ ความเป็นทีม และความแข็งแกร่งในด้านจิตใจ รวมถึงในด้านแท็คติกที่เรามี ซึ่งเราจะเอาออกมาใช้ในเกมการแข่งขัน
“ถ้ามองในแง่ของความเป็นไปได้ ที่เราจะผ่านเข้ารอบ ก็เป็นไปได้ แต่ตรงนี้เรายังไม่สามารถคิดได้ว่าจะผ่านเข้ารอบ ในเกมที่เราจะเจอกับยูเออี เราต้องทำงานให้หนักและเต็มที่ เราไม่ได้มองว่าจะได้ 3 แต้ม หรือ 1 แต้ม อันดับแรกเราต้องเล่นให้รัดกุม และทำให้ดีที่สุด”
ทั้งนี้หากดูสถิติการเจอกันระหว่างทีมชาติไทย กับยูเออี ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันในเกมอย่างเป็นทางการ เคยเจอกันทั้งหมด 12 นัด ทีมชาติไทย ชนะเพียงแค่ 2 นัดเท่านั้น เสมอ 3 นัด ส่วน ยูเออี ชนะได้ถึง 7 นัด และที่สำคัญทีมชาติไทย ยังไม่เคยบุกไปเอาชนะในถิ่นยูเออี ได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว.
ที่มา : https://siamrath.co.th/n/61070
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น