วันนี้ 14 พ.ย. 63 เวลา 09:30 น. ณ บริเวณวัดฐิติสารารามหรือวัดตาดวิมานทิพย์ทางขึ้นชมถ้ำนาคา อุทยานแห่งชาติภูลังกาฝั่งตำบลโพธิ์หมากแข้ง อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยพร้อมคณะเดินทางมาสำรวจแหล่งท่องเที่ยวถ้ำนาคา โดยการเดินทางในครั้งนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะ ได้เดินทางขึ้นไปยังถ้ำนาคาด้วยตนเอง เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และไกด์อาสาชุมชน และเพื่อสำรวจเส้นทางเพื่อที่จะพัฒนาในด้านต่าง ๆ ต่อไป
จากนั้นได้เดินทางไปที่น้ำตกตาดกินรี ซึ่งอยู่ บ้านนาอ่าง ตำบลโพธิ์หมากแข้ง อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ เพื่อเยี่ยมชม วังนาคินทร์ ซึ่งเป็นหินที่มีลักษณะเป็นเกล็ดงูคล้ายกับถ้ำนาคา เพื่อสำรวจความเป็นไปได้ในการส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวต่อเนื่องจากถ้ำนาคา ซึ่งเป็นที่รู้จักของคนทั้งประเทศ
ในการนี้รัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงมหาดไทยได้ให้สัมภาษณ์ กับผู้สื่อข่าวถึงการเดินทางมาในวันนี้ว่า
"วันนี้มาทำหน้าที่ในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีซึ่งท่านนายกได้มอบหมายกำกับดูแลเรื่องการพัฒนาก้าวไปด้วยกัน 3 จังหวัด บึงกาฬ สกลนครและนครพนม บึงกาฬเป็นจังหวัดซึ่งถือว่าพึ่งตั้งขึ้นมาเป็นจังหวัดใหม่ของประเทศไทยก็ว่าได้ ประมาณ 9 ปีเข้าปีที่ 10 บึงกาฬเป็นจังหวัดซึ่งมีความพร้อมเรื่องของแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ผมมั่นใจว่าเป็นจังหวัดซึ่งในอนาคตจะเป็นจังหวัดที่มีการกล่าวถึงการพัฒนาในเรื่องของการท่องเที่ยวโดยเฉพาะที่นี่ วันนี้ผู้คนหลายคนสนใจมากคือ “ถ้ำนาคา” แต่ที่ผมอยู่นี้เป็นถ้ำ “วังนาคินทร์” ก็เป็นพื้นที่ 1 ที่อยู่ในอุทยานของภูลังกา เป็นพื้นที่ที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้จัก แต่วันนี้เริ่มเปิดใหม่ มาที่นี่ก็เห็นว่าเป็นพื้นที่ที่น่าจะเป็นที่หนึ่งที่ผู้คนสนใจเดินทางมา เห็นแล้วก็ประทับใจอย่างมากเป็นสิ่งมหัศจรรย์ก็ว่าได้ต่อไปนี้จังหวัดจะต้องมาพัฒนาให้สิ่งเหล่านี้ สร้างความสุขของประชาชนให้มากขึ้นเรื่องของการเดินทางความสุขสบายและความปลอดภัยความสวยงามอย่างนี้และผมเชื่อมั่นว่าสิ่งเหล่านี้จะสร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจอย่างสูงในโอกาสต่อไป วันนี้รัฐบาลก็มีโครงการสำคัญสำคัญคือโครงการ”คนละครึ่ง” โครงการดังกล่าวนี้ส่วนใหญ่ก็จะเน้นไปให้กับคนฐานรากได้รับประโยชน์ ผู้คนที่จำหน่ายสินค้าร้านอาหารเป็นชาวบ้านในพื้นที่ ท้องถิ่น ยกเว้นนิติบุคคล เป็นร้านค้าทั่วไปจะได้ใช้ประโยชน์ในการที่จะเชิญชวนให้ทุกคนได้ใช้ประโยชน์ในการที่จะลดค่าใช้จ่ายและประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างหนึ่งของรัฐบาลในยุคที่มีโรคภัย ซึ่งนี่ก็เป็นแนวทางในการที่จะแก้ปัญหาให้กับบ้านเมืองได้"
-----------------------------------------------
หลังจากนั้น นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.3) พร้อมคณะ ตรวจติดตามโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยว ทางหลวงชนบท สาย บก. 3009 บ้านโนจำปาทอง ต.บ้านต้อง อ.เซกา จ.บึงกาฬ โดยมีนายธาตรี บุญมาก รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ หัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. ประชาชนชาวบ้านโนนจำปาทอง ให้การต้อนรับ และรับฟังบรรยายสรุปจากนายอนุชิต ดีชัยทน ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชนบทบึงกาฬ
นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.3) กล่าวว่า
“เราได้ถือว่าการพัฒนาเส้นทางการเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวเป็นงานหลักของการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยเฉพาะที่กลุ่มจังหวัด หนองคาย อุดรธานี บึงกาฬ หนองบัวลำภู เลย มีโครงการซึ่งเรียกว่าโครงข่ายในการพัฒนาเพื่อการเข้าถึงการท่องเที่ยว “นาคีรูท” ที่เชื่อมระหว่าง อุดรธานี - บึงกาฬ - หนองคายแล้ววนกลับไปอุดรธานี ซึ่งผ่านสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในส่วนของจังหวัดบึงกาฬนั้นได้มี โครงการก่อสร้างถนน 2 ส่วน ด้วยกัน ส่วนที่ 1 ประมาณ 2 ก.ม. ใช้เงินประมาณ 20 ล้าน อีกส่วนหนึ่ง ประมาณ 6 ก.ม. ก็ใช้เงินประมาณ 50 ล้าน รวม 2 โครงการ ใช้เงินร่วม 70 ล้านบาท
วันนี้มาตรวจดูในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีซึ่งกับดูแลเรื่องของการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน ที่ได้มอบหมายดูแลการดำเนินการตามโครงการเพื่อให้เร็วที่สุดแล้วก็เป็นประโยชน์มากที่สุด วันนี้ก็ดูแล้วในภาพรวมก็ดีใจแทนประชาชนในการที่จะเดินทางสัญจรด้วยความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น และใช้งบประมาณด้วยความคุ้มค่ามีผลในทางเศรษฐกิจเป็นอย่างดี ซึ่งดูแล้วมาตรฐานถนนดีมากในเส้นทางดังกล่าว ก็ต้องขอบคุณทางกรมทางหลวงชนบทซึ่งรับหน้าที่ในการหาผู้รับจ้างมาแล้วก็ออกแบบในการก่อสร้างติดตามตรวจสอบ ถือว่าน่าชื่นชมยินดีเป็นเส้นทางมีมาตรฐานและมั่นใจว่าไปใช้ประโยชน์ใช้สอยได้เป็นอย่างดี มีความปลอดภัย แต่ว่าทุกคนต้องช่วยกันดูแล เพราะเส้นทางทั้งหลายมาจากภาษีของประชาชน ประชาชนต้องช่วยกันดูแลเพื่อให้ทุกคนได้ประโยชน์อย่างสูงสุด”
บึงกาฬ//ข่าว : ก้าวไปด้วยกันกับทรงศักดิ์ ทองศรี, สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบึงกาฬ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น